หน้าแรก  »  บทความสุขภาพ  »  ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง เตือนออฟฟิศซินโดรม แก้ต้นเหตุได้ด้วยสมุนไพรจีน

ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง เตือนออฟฟิศซินโดรม แก้ต้นเหตุได้ด้วยสมุนไพรจีน

ปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง…สัญญาณเตือนจากออฟฟิศซินโดรม

มนุษย์ออฟฟิศกว่า 90% มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่เรื้อรัง สาเหตุเนื่องมาจากการนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์หรือจ้องหน้าจอโทรศัพท์ตลอดทั้งวัน ทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ตึงเกร็ง บางรายอาจปวดร้าวขึ้นศีรษะหรือร้าวลงแขน เรียกภาวะนี้ว่า ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) หากปล่อยไว้นานจะทำให้หมอนรองกระดูกคอเสื่อม กดทับเส้นประสาทและหลอดเลือด เกิดอาการปวดร้าวลงแขน ชาหรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ทำไมออฟฟิศซินโดรมถึงพัฒนาเป็นกระดูกคอเสื่อมได้?

การนั่งผิดท่านานเกินไปหรือมีพฤติกรรมเดิมซ้ำ ๆ ทำให้กล้ามเนื้อคอบ่าไหล่ตึงตัว โครงสร้างคอรับภาระหนักจนเกิดการเสื่อมสภาพก่อนวัย และการไม่รักษาที่ต้นเหตุ เช่น ทานยาแก้ปวดเป็นการบรรเทาเพียงชั่วคราวแต่ไม่หยุดยั้งการเสื่อมทำให้อาการค่อย ๆ รุนแรงขึ้น

ชนิดของโรคกระดูกคอเสื่อม (Cervical Spondylosis)

ชนิดอาการหลักกลุ่มเสี่ยงสัญญาณเตือน
รากประสาทถูกกดทับ (CSR)• ปวดคอร้าวถึงแขน/มือ
• ชานิ้วมือ ปลายแขน
• กล้ามเนื้ออ่อนแรง
• ผู้ที่นั่งทำงานนาน > 6 ชม./วัน
• นักกีฬายกน้ำหนัก
• ผู้ที่ชอบนอนหมอนสูง
• แขนชาขณะพิมพ์งาน
• จับแก้วน้ำหล่นบ่อย
หลอดเลือดถูกกดทับ (CSA)• เวียนศีรษะ บ้านหมุน
• ตาพร่ามัวเมื่อหันคอ
• หูอื้อ/คลื่นไส้
• ผู้ที่ก้มมองมือถือบ่อย
• ผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง
• ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
• มึนหัวเวลาลุกเร็ว
• เห็นแสงวูบวาบ
ไขสันหลังถูกกดทับ (CSM)• เดินเซ ทรงตัวยาก
• ใช้มือไม่คล่อง เขียนไม่ถนัด
• ปัสสาวะบ่อยไม่รู้ตัว
• อายุ >50 ปี
• ผู้ที่เคยบาดเจ็บที่คอ
• สูบบุหรี่จัด
• เดินชนขอบประตู
• ลายเซ็นเปลี่ยนไป

ทำไมการรักษาทั่วไปมักไม่ได้ผลระยะยาว?

  • ยาแก้ปวดหรือยาคลายกล้ามเนื้อ เป็นการบรรเทาอาการเพียงชั่วคราว ไม่ได้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของอาการปวด
  • การนวด ประคบร้อน หรือกายภาพบำบัด เป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพียงบางส่วน แต่เส้นประสาทและหลอดเลือดยังคงถูกกดทับหากยังมีพฤติกรรมเช่นเดิม

3 กลไกหลักฟื้นฟูสมดุลกระดูกคอ

  1. ลดการอักเสบและชะลอการเสื่อม ยับยั้งการอักเสบผ่านกระบวนการ TNF-α/MMP-13 ทำให้ลดการสลายคอลลาเจนในหมอนรองกระดูกได้กว่า 50%
  2. กระตุ้นการไหลเวียนเลือด โดยทำให้หลอดเลือดบริเวณคอขยายตัว เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้เร็วขึ้นถึง 28.7% ทำให้บรรเทาอาการเวียนศีรษะจากกระดูกคอลดลง 92.3%
  3. ฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท โดยกระตุ้นการหลั่ง NGF/BDNF (โปรตีนที่ช่วยบำรุงและซ่อมแซมเส้นประสาท) ทำให้ความเร็วในการส่งสัญญาณจากสมองไปยังแขนขากลับมาใกล้เคียงปกติที่ประมาณ 0.82 m/s ส่งผลให้อาการชา แขนอ่อนแรง หรือเคลื่อนไหวช้าดีขึ้น

รักษาโรคกระดูกคอเสื่อมครบทั้ง 3 ชนิด

  1. ชนิดรากประสาท (CSR) อาการปวด ชา กล้ามเนื้ออ่อนแรงดีขึ้นถึง 86.7% ภายใน 4 สัปดาห์
  2. ชนิดหลอดเลือด (CSA) บรรเทาอาการเวียนศีรษะและเสริมการไหลเวียนเลือด เมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นให้ผลดีขึ้นถึง 35%
  3. ชนิดไขสันหลัง (CSM) ฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท โดยเพิ่มคะแนนการทำงานของระบบประสาทในด้านต่าง ๆ(JOA score) ได้ถึง 40%

การใช้ยาตามแนวทางเวชปฏิบัติ

ชนิดของโรคกระดูกคอยาแผนปัจจุบัน ผลการรักษา
 โรคกระดูกคอชนิดรากประสาทNeurotropinเพิ่มขึ้น 35%
โรคกระดูกคอชนิดหลอดเลือดกระดูกสันหลังBetahistineเพิ่มขึ้น 41%
โรคกระดูกคอชนิดไขสันหลังMethycobal  (วิตามิน B12)เพิ่มขึ้น 40%
อาการปวดศีรษะจากต้นเหตุที่คอคลื่นกระแทก (Shock wave)เพิ่มขึ้น 52%

ความปลอดภัย

ข้อมูลจากศูนย์เฝ้าระวังผลข้างเคียงจากการใช้ยาแห่งชาติของประเทศจีน (China’s National Adverse Drug Reaction Monitoring and Direct Reporting System) ระหว่างปี 2021-2023 จากจำนวนผู้ใช้ 48,592 ราย พบว่า อัตราการเกิดผลข้างเคียงต่ำมาก สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องไปพบแพทย์ เช่น

  • อาการในระบบทางเดินอาหาร 0.89%
  • แพ้สมุนไพรที่เป็นส่วนประกอบในตำรับ 0.12%
  • ไม่พบความผิดปกติต่อค่าการทำงานของตับและไต

จุดเด่นที่ทำให้ยาสมุนไพรจีนแตกต่างและน่าเชื่อถือ

  1. นวัตกรรมด้านกลไกการรักษา ยาสมุนไพรจีนเป็นยาสมุนไพรตัวแรกของโลกที่มีงานวิจัยยืนยันว่า สามารถยับยั้งความเจ็บปวดผ่านช่องทาง TRPV1/P2X3 ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการปวดเรื้อรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  2. รักษาครอบคลุมหลายอาการ เดิมทีใช้รักษาโรคกระดูกคอเสื่อมชนิดกดทับเส้นประสาท (CSR) เพียงเท่านั้น ปัจจุบันใช้รักษาผู้ป่วยที่มีการกดทับไขสันหลัง (CSM) และการฟื้นตัวหลังผ่าตัดด้วย
  3. แนวคิดการรักษาแบบผสมผสาน ใช้ยาสมุนไพรร่วมกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อให้สามารถดูแลผู้ป่วยได้ในทุกระยะของโรค ตั้งแต่เริ่มมีอาการไปจนถึงการฟื้นฟูระยะยาว

ยาสมุนไพรจีนเป็นนวัตกรรมยาสมุนไพรที่ผสมผสานความรู้แพทย์แผนจีนและการวิจัยสมัยใหม่ เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาวิธีการฟื้นฟูโรคกระดูกคอเสื่อมอย่างครอบคลุมและปลอดภัย ทั้งยังเหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคอื่นร่วม ใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การแพทย์จีนสมัยใหม่ และนวัตกรรมสมุนไพรจีนเอินเวย์ช่วยคุณได้ ปรึกษาทีมแพทย์จีน เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญของเอินเวย์ (Enwei) ได้ที่สายด่วนสุขภาพเอินเวย์ 02-751-4399 หรือไอดีไลน์ @enwei

หนังสือและเอกสารทางการแพทย์อ้างอิง :

  1. Zhang et al. (2013). Systematic review of Jingfukang Granules for nerve root cervical spondylosis. Research of Integrated Traditional Chinese and Western Medicine. 5(3): 128-132.
  2. Tang & Luo (2017). Jingfukang Granules combined with meloxicam for vertebral arterial cervical spondylosis. World Latest Medicine Information. 17(76): 256-257.
  3. Ma (2012). Clinical efficacy of Jingfukang Granules in 197 cases of cervical spondylotic radiculopathy. Guide of China Medicine. 10(21): 237-238.
  4. Yu (2011). Jingfukang Granules for cervical spondylosis: 481 cases. Journal of Traditional Chinese Medicine. 52(Suppl): 154-155.
  5. Yang (2011). Clinical observation of Jingfukang Granules for polymyalgia rheumatica (40 cases). Journal of Traditional Chinese Medicine. 52(Suppl): 140-141.
  6. Zhou (2020). Betahistine mesylate combined with Jingfukang Granules for cervical vertigo. Northern Pharmacy. 17(2): 140-141.
  7. Hu (2023). Jingfukang Granules combined with irbesartan for hypertension and carotid hemodynamics. Modern Diagnosis & Treatment. 34(18): 2711-2713.
  8. Fu et al. (2023). Jingfukang Granules combined with Neurotropin for cervical spondylotic radiculopathy. Drugs & Clinic. 38(3): 612-615.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

Herbina Formula 1

Herbina Formula 1

ข้อและกระดูก

ปรึกษาแพทย์จีน
ปรึกษาแพทย์จีน
Scroll to Top