หน้าแรก  »  บทความสุขภาพ  »  ภาวะตับอ่อนแอ วิตกกังวล เครียด การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร

ภาวะตับอ่อนแอ วิตกกังวล เครียด การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร

ภาวะตับอ่อนแอ วิตกกังวล เครียด การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร

ตับเป็นเสมือนโรงงานเคมีของร่างกาย ทำหน้าที่กรองสารพิษออกจากเลือด และทำงานเกี่ยวกับกระบวนการทางเคมีและการเผาผลาญ ทั้งยังมีหน้าที่สำคัญอีกหลายๆ อย่าง อาทิ

  • ผลิตน้ำดี เซลล์ตับจะผลิตน้ำดีและขับน้ำดีเข้าสู่ลำไส้ เพื่อช่วยย่อยอาหารประเภทไขมัน
  • สังเคราะห์โปรตีน โปรตีนในเลือดส่วนใหญ่จะสังเคราะห์ขึ้นจากเซลล์ตับ เช่น โปรตีนอัลบูมินที่ช่วยควบคุมการแลกเปลี่ยนน้ำระหว่างเนื้อเยื่อกับเลือด โปรตีนที่ช่วยห้ามเลือดเมื่อผนังหลอดเลือดได้รับบาดเจ็บ เป็นต้น
  • กักเก็บอาหาร เซลล์ตับกักเก็บน้ำตาลกลูโคสจากเลือดในรูปแบบไกลโคเจน กักเก็บกรดอะมิโนจากเลือดมาสังเคราะห์เป็นโปรตีนในรูปแบบต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย กักเก็บไขมัน วิตามินเอและวิตามินบี 12 ฯลฯ หากอาหารที่เรารับประทานเข้าไปไม่เหมาะสมกับความต้องการ เช่น มีแต่โปรตีนแทบไม่มีคาร์โบไฮเดรต ตับจะเปลี่ยนโปรตีนเป็นคาร์โบไฮเดรต ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดปกติ เป็นต้น
  • ช่วยขับสารพิษ ตับจะช่วยขับยาและสารพิษที่ตกค้างให้ออกจากเลือด และสารพิษเหล่านี้ก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ
  • ช่วยควบคุมกระบวนการเมตาบอลิซึมของฮอร์โมน หากตับทำงานผิดปกติเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเพศในร่างกายผิดปกติไปด้วย ทำให้เกิดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ อัณฑะฝ่อ ประจำเดือนขาดหรือมาไม่สม่ำเสมอ ฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือมีจุดแดงที่หน้าอก หน้าท้อง ฯลฯ

หน้าที่สำคัญของตับในทัศนะการแพทย์จีน

ในทัศนะการแพทย์จีน ตับนอกจากมีหน้าที่สำคัญตามที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ตับยังทำหน้าที่ในการกักเก็บเลือดและปรับปริมาณเลือดของอวัยวะแต่ละส่วนให้เกิดภาวะสมดุลกัน โดยทำงานสัมพันธ์กับหัวใจ (肝蒇血) อีกทั้งยังเป็นศูนย์บัญชาการการระบายพลังชี่ให้กระจายไปสู่ทั่วทั้งร่างกาย (肝主疏泄) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้ตับและอวัยวะอื่นๆ ทำงานได้อย่างราบรื่น หากความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลง ก็จะเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับ (肝郁气滞) การไหลเวียนของพลังชี่และเลือดก็จะไม่คล่องตัว ส่งผลให้เส้นลมปราณตับสะดุดและติดขัด

เส้นลมปราณตับจะเริ่มทอดตั้งแต่ปลายนิ้วหัวแม่เท้า ไปตามหลังเท้า ขึ้นไปสู่น่อง เข้าด้านในของเข่าและขา แล้ววกผ่านอวัยวะเพศ (อัณฑะหรือมดลูก) ขึ้นไปยังท้องน้อย ผ่านตับ ถุงน้ำดี เลียบข้างกระเพาะอาหาร และขึ้นไปตามปอด ลำคอ แก้ม ริมฝีปาก บริเวณหางคิ้ว ระหว่างคิ้ว หน้าผาก และสิ้นสุดที่สมอง การสะดุดและติดขัดของเส้นลมปราณตับ จึงส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติมากมายตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย

ภาพแสดงเส้นลมปราณตับตามศาสตร์แพทย์จีน

ดังนั้น หากแพทย์จีนท่านใดวินิจฉัยว่าคุณมีภาวะพลังชี่อั้นในตับ คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าคุณเป็นโรคตับ และไม่ต้องรีบแย้งกลับไปว่าเพิ่งไปตรวจสุขภาพมา ตับไม่มีปัญหาหรอก เพราะว่าภาวะพลังชี่อั้นในตับ ไม่ใช่โรคตับในความหมายของการแพทย์ตะวันตก แต่หมายถึงอาการผิดปกติต่างๆ ที่เกิดจากความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลง หากไม่มีการบำบัดอย่างทันท่วงที นอกจากจะทำให้คนเรามีอาการเครียดและมีอารมณ์ปรวนแปรเป็นประจำแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานของกระเพาะอาหาร ม้าม หัวใจ ไตและอวัยวะอื่นๆ ด้วย พร้อมทั้งอาจพัฒนาเป็นโรคร้ายต่างๆ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง เนื้องอก หรือมะเร็งในเต้านม ตับและมดลูก ไทรอยด์อักเสบ เป็นต้น

ภาวะพลังชี่อั้นในตับจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง

ภาวะพลังชี่อั้นในตับ อาจแสดงอาการใดอาการหนึ่งหรือหลายๆ อาการพร้อมกันก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการะบายพลังชี่ของตับลดลงเพียงใด และระยะเวลาที่เรื้อรัง การวินิจฉัยตนเองว่ามีภาวะพลังชี่อั้นในตับหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก เพียงแค่หมั่นสังเกตว่ามีอาการดังนี้หรือไม่

  • ผลกระทบด้านจิตใจและอารมณ์ การระบายพลังชี่ของตับ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดการเปลี่ยนแปลงด้านอารมณ์ การทำหน้าที่ของตับส่วนนี้ตรงกับแนวคิดที่ว่า ตับมีความสัมพันธ์กับการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติในการแพทย์ตะวันตก ภาวะพลังชี่อั้นในตับจะทำให้เส้นลมปราณตับติดขัด หากเกิดขึ้นกับเส้นลมปราณตับส่วนบนที่เดินผ่านสมอง ก็จะทำให้สมองมีการผลิตสารเคมีทั้งหลายที่ทำให้คนเราไม่เครียดและรู้สึกอารมณ์ดีลดน้อยลง จึงเกิดความเครียด วิตกกังวล ขี้หงุดหงิด โกรธเกรี้ยว มีความรู้สึกอ่อนไหว เปราะบาง หดหู่หรือซึมเศร้าได้ง่ายและบ่อยขึ้น และในทางกลับกัน ความรู้สึกด้านลบและอารมณ์ที่ปรวนแปร ก็จะไปเพิ่มความรุนแรงของภาวะพลังชี่อั้นในตับ
  • เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกหรือมะเร็ง เส้นลมปราณตับเกี่ยวข้องกับเต้านม ตับ ประจำเดือนและมดลูก ภาวะพลังชี่อั้นในตับทำให้การไหลเวียนของพลังชี่และเลือดไม่คล่องตัว จึงเกิดการสะสมพิษในร่างกาย เมื่อพิษนี้สะสมเป็นเวลานานก็จะจับตัวเป็นก้อน ถ้าเพียงอุดกั้นเท่านั้น ก็จะเป็นเนื้องอกที่ไม่เป็นอันตราย แต่ถ้าการจับตัวเป็นก้อนนั้นมีพิษมากก็จะกลายเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็งนั่นเอง ซึ่งเปรียบเสมือนท่อประปาที่มีแรงดันน้ำต่ำเกินไป ก็จะทำให้น้ำในท่อไหลเอื่อยๆ และตกตะกอนได้ง่าย เมื่อเวลาเนิ่นนานไปก็จะเกาะกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นก้อนใหญ่ทำให้ท่อตันได้ ประกอบกับความรู้สึกเครียดและอารมณ์ปรวนแปรที่เกิดจากภาวะพลังชี่อั้นในตับ จะไปส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง จึงไม่สามารถกำจัดเซลล์แปลกปลอมได้ทั้งหมดและติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านม ตับหรือมดลูก
  • ผลกระทบต่ออวัยวะตามเส้นลมปราณตับ
    • การติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนบนนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการผลิตสารเคมีทั้งหลายที่ทำให้คนเรารู้สึกอารมณ์ดีแล้ว ยังทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ต่อมไทรอยด์อักเสบ รู้สึกมีอะไรจุกอยู่ในคอหอย จะกลืนก็ไม่ลง จะคายก็ไม่ออก ผิวหน้าซีดเหลือง มีฝ้าฮอร์โมนบนใบหน้า หางคิ้วและระหว่างคิ้วมีริ้วรอยก่อนเวลาอันควร มุมปากหรือริมฝีปากหมองคล้ำ เป็นต้น
    • การติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนกลางจะทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น เจ็บหรือคัดเต้านม โดยเฉพาะในสตรีจะเป็นมากขึ้นช่วงก่อนมีประจำเดือน เนื้องอกหรือมะเร็งในเต้านมและมดลูก รู้สึกหายใจไม่เต็มท้อง ทำให้ต้องถอนหายใจบ่อยๆ ปวดแน่นบริเวณชายโครง ตับอักเสบ ตับแข็ง เนื้องอกหรือมะเร็งในตับ เป็นต้น
    • การติดขัดของเส้นลมปราณตับส่วนล่างจะส่งผลให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องตึงเกร็ง ทำให้เกิดอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องน้อย รู้สึกปวดหน่วงอัณฑะ ปวดประจำเดือน ประจำเดือนมาเป็นลิ่ม ดำคล้ำ ประจำเดือนขาดหายไป เป็นต้น รวมทั้งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สตรีไม่ถึงจุดสุดยอดในการมีเพศสัมพันธ์ด้วย
  • ผลกระทบต่อการย่อย ดูดซึมและลำเลียงอาหาร การระบายพลังชี่ของตับ มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของกระเพาะอาหารและม้าม ซึ่งมีหน้าที่ในการย่อย ดูดซึมและลำเลียงอาหาร หากพลังชี่ในตับไม่สามารถระบายไปสู่ทั่วร่างกาย ก็จะทำให้ตับ กระเพาะอาหารและม้ามทำงานไม่สัมพันธ์กัน พร้อมทั้งส่งผลกระทบต่อการสร้างและการขับน้ำดี ทำให้เกิดอาการเบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ คล้ายอาหารไม่ย่อย เรอบ่อย กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง ท้องร่วงหรืออุจจาระหยาบไม่จับตัวเป็นก้อน เมื่อกระบวนการย่อย ดูดซึมและลำเลียงอาหารบกพร่องเป็นเวลานาน ย่อมส่งผลกระทบต่อการสร้างเลือดและพลังชี่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการของหัวใจ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือด เช่น ใจสั่น นอนไม่หลับ นอนหลับแต่ฝันร้าย ตื่นตอนกลางคืน แล้วหลับยาก หรือนอนหลับมากเกินไป ขี้ลืม ตกใจง่าย เป็นต้น

ภาวะพลังชี่อั้นในตับเกิดจากสาเหตุอะไร

ความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับจะค่อยๆ ลดลงตั้งแต่อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นความเสื่อมตามวัยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ส่วนจะลดลงเร็วช้าหรือมากน้อย อาจไม่เท่ากันในแต่ละคน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ

  • ความเครียดและอารมณ์แปรปรวน ความเครียดหรือเหตุการณ์กระทบกระเทือนอารมณ์จากชีวิตประจำวัน เช่น ความแออัดของเมือง การจราจรติดขัด เวลาทำงานมากเกินไป ความขัดแย้งทางการเมือง ปัญหาการเงิน เรื่องรบกวนจิตใจต่างๆ เป็นต้น ล้วนส่งผลให้พลังชี่และเลือดในร่างกายไหลเวียนไม่สะดวก ทำให้ความสามารถในการระบายพลังชี่ของตับลดลงจนเกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับ และในขณะเดียวกัน ภาวะพลังชี่อั้นในตับก็จะทำให้ความเครียดและอารมณ์แปรปรวนเป็นหนักยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวงจรที่จะส่งผลร้ายซึ่งกันและกัน
  • โรคประจำตัว นอกจากจะทำให้ผู้ป่วยต้องตกอยู่ในความรู้สึกด้านลบอย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงแล้ว ยังทำให้การไหลเวียนของเลือดและพลังชี่ในร่างกายเกิดความปั่นป่วน จึงส่งผลให้เกิดภาวะพลังชี่อั้นในตับได้เช่นกัน
  • การใช้ชีวิตไม่ถูกสุขลักษณะ การดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่ การรับประทานอาหารเผ็ดหรือมันมากเกินไป การนอนดึกหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ การทำงานหามรุ่งหามค่ำ ขาดการออกกำลังกาย ฯลฯ

การแพทย์จีนมีวิธีบำบัดอย่างไร

สำหรับภาวะพลังชี่อั้นในตับนั้น การแพทย์จีนแนะนำสิ่งที่ควรจะปฏิบัติในเบื้องต้นคือ พยายามควบคุมอารมณ์ ทำจิตใจให้แจ่มใส มองโลกในแง่ดี และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมทั้งควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันให้ถูกสุขลักษณะ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำงานหักโหมเกินไป งดเหล้า บุหรี่และลดอาหารเผ็ด มัน เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีอาการของภาวะพลังชี่อั้นในตับ โดยเฉพาะผู้ที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน การปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวย่อมไม่เพียงพอ การแพทย์จีนแนะนำควรใช้สมุนไพรจีนที่มีสรรพคุณในการปรับและระบายพลังชี่ในตับ ทำให้ตับสามารถระบายพลังชี่ให้กระจายไปสู่ทั่วร่างกาย เส้นลมปราณตับจึงไม่สะดุดและติดขัด เลือดและพลังชี่ก็จะไหลเวียนได้สะดวกขึ้น จากการวิจัยและทดลองทางการแพทย์และเภสัชวิทยาในปัจจุบันพบว่า ยาสมุนไพรจีนที่อยู่ในรูปแบบสารสกัดเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากสามารถสกัดและควบคุมสารออกฤทธิ์ได้อย่างเข้มข้นและแม่นยำ

อาการเครียด วิตกกังวล ขี้หงุดหงิด ปวดแน่นชายโครง ท้องอืดท้องเฟ้อ เรอบ่อย ฝ้าฮอร์โมนและอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากภาวะพลังชี่อั้นในตับจึงค่อย ๆ ทุเลาลงหรืออาจหายไปในที่สุด

YouTube player
YouTube player

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

Armony

Armony

ตับ // ทางเดินอาหาร // ประสาทและสมอง

ปรึกษาแพทย์จีน
ปรึกษาแพทย์จีน
Scroll to Top